-
อันตรายจากรังสีในจอมือถือ แทปเล็ต จอคอมพิวเตอร์ หลอดไฟ LED ต่อผิวหนัง!ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า มือถือ แทปเล็ต และคอมพิวเตอร์ คือปัจจัยที่5 ของคนในยุคปัจจุบัน ที่ต้องใช้ชีวิต ทำงาน หารายได้ จากการขายของ สั่งของ ดูเรื่องราว รับรู้ข่าวสารต่างๆ ในชีวิตประจำวันจาก มือถือ แทปเล็ต หรือ จอคอมพิวเตอร์ แสงสีฟ้า หรือ Blue Light ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าแสงสีฟ้าหรือ Blue Light ไม่ได้ทำร้ายโดยตรงต่อตาของเรา เพราะบริษัทที่ผลิต มือถือสมาร์ทโฟน แทปเล็ต หรือจอคอมจะใช้หน้าจอที่ป้องกันพิเศษ UV ได้สูงสุดโดยประมาณ 400 เท่า หรือ 400 นาโนเมตร ซึ่งอาจทำให้ เกิดภาวะ เซลล์ประสาทตาเสื่อมต้อกระจก ปวดหัว ปวดตา และ ออฟิสซินโดมและมากมายอันตรายที่อาจเกิดจากการใช้งานของสายตาโดยไม่พัก คุณหมอจึงออกมาแนะนำให้ พักสายตา ทุกๆ 30 นาที โดยการหลับตา หรือมองไปยังจุดทีมีสีเขียว รูปภาพ ต้นไม้ ไบไม้ที่มีสีเขึียว เพื่อพักสายตาประมาณ 10 นาทีคลื่นแสงทีี่ถูกปล่อยมาเป็นคลื่นที่มีความถี่มากว่า 400 นาโนเมตร ซึ่งแน่นอนจะไปกระตุ้นให้ผิวสร้างเมลานินทำให้ผิวหมองคล้ำ ดำ ตกกระและเป็นฝ้า ทีสำคัญ ยังทำให้เกิดริ้วรอย แก่ก่อนวัย โรคฝ้ารักษาไม่หายตลอดชีวิต! แต่ป้องกันได้ โดยทาครีมกันแดดเป็นประจำ ทุกๆ เช้า หรือ ทำกิจกรรมต่างๆ ประมาณ 15-20 นาทีครีมกันแดดก็มีมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งสูตรน้ำ บีบี แต่ควรมีค่า SPF อย่างน้อย 35% ถึงจะช่วยสกัดกันแสงได้บ้าง แต่ก็ไม่ควรเกิน 50% เพราะความเข้มข้นที่สูงมากเกิน อาจทำให้ผิวเกิดการแพ้และระคายเคือง อาจส่งผลร้ายมากกว่าผลดี การทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง คือต้องทางบางๆ และ บ่อยๆ ควรทาซ้ำทุกๆ 4 ชั่วโมง ในกรณีที่อยู่ในสำนักงาน ในบ้าน หากต้องออกกลางแดดมีเหงื่อ ควรเลือกซื้อกันแดด ที่กันน้ำ กันเหงื่อและซึมเร็ว และควรทาซ้ำ ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันผิวให้ขาวใส ดูอ่อนวัยได้ยาวนานที่มาของข้อมูล : www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000120790
